2024年12月3日, 週二

เครือข่ายร้านอาหารวีแกนไต้หวันส่องแสงในเอธิโอเปีย

สื่อรายงาน

โดย ลี่เจีย ผู้สื่อข่าวไต้หวันนิวส์
2017/09/05 17:30

แอดดิสอาบาบา (ข่าวไต้หวัน) — เอธิโอเปียอยู่ห่างจากไต้หวัน ประมาณ 8,000 กิโลเมตร ในประเทศนี้ แทบไม่มีใครเคยเห็นชาวเอเชีย แล้วจะมีชาวไต้หวันหรืออาหารไต้หวันได้อย่างไร

คำตอบคือมี และหนึ่งในนั้นเป็นร้านอาหารวีแกนด้วยซ้ำ ร้านอาหารแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองหลวงแอดดิสอาบาบา และเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายร้านอาหารวีแกน

ผู้จัดการโจวของเลิฟวิ่งฮัท และผู้สื่อข่าวลี่เจีย (ภาพโดย ลี่เจีย ผู้สื่อข่าวพิเศษของไต้หวันนิวส์)

เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่ที่ท้าทายมาก เป็นเรื่องจริงที่มีชาวไต้หวันจำนวนไม่มากอาศัยอยู่ในเอธิโอเปีย ชาวไต้หวันบางคนไปทำงานที่นั่นเป็นอาสาสมัครระหว่างประเทศ หรือทำงานระยะสั้น ตอนพวกเขาเดินทางไปทำธุระที่ต่างประเทศ แต่เป็นที่น่าประหลาดใจมากที่ชาวไต้หวันเปิดร้านอาหารวีแกนท้องถิ่น ร้านอาหารวีแกนที่เปิดในเอธิโอเปียโดยเลิฟวิ่ง ฮัทนานาชาติ ได้รับแรงบันดาลใจจากท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ อาหารในร้านส่วนใหญ่เป็นอาหารเอเชีย ขณะที่ผสานเข้ากับอาหารพื้นเมือง “อินจารา” ที่เป็นที่ชื่นชอบและอาหารอันโอชะจากประเทศต่าง ๆ ผลที่ได้ก็คือความหลากหลายของผู้คน ไม่เพียงแต่ชาวเอเชียเท่านั้นที่ได้เพลิดเพลินกับรสชาติอาหารจากบ้านเกิดของพวกเขา แต่ชาวพื้นเมืองยังได้มีโอกาสลิ้มรสอาหารไต้หวันอีกด้วย

คุณจะต้องสงสัยว่า ส่วนผสมอาหารไต้หวันและพ่อครัวมาจากที่ไหน !

ผู้จัดการโจวบอกว่า เธอกลับไต้หวันทุก 2-3 เดือน และนำส่วนผสมพิเศษบางอย่างกลับมาด้วย เธอยังสอนพ่อครัวท้องถิ่นทำอาหารไต้หวันอีกด้วย และให้โอกาสพวกเขาค่อย ๆ เรียนรู้ศิลปะนี้

อาหารเลิฟวิ่งฮัท – บะหมี่น้ำรสเปรี้ยว (ภาพโดย ลี่เจีย ผู้สื่อข่าวพิเศษของไต้หวันนิวส์)

คุณโจวเป็นชาวฮากกา จากนครซินจู๋ เมื่อพูดถึงบ้านเกิดของเธอ เธอจะตื่นเต้นและกระตือรือร้นอยากจะแบ่งปันเรื่องราว เธอพูดว่า “เมื่อไรก็ตามที่ฉันเห็นชาวไต้หวันในเอธิโอเปีย ฉันรู้สึกเหมือนฉันได้เจอคนในครอบครัวในตัวเอง” เหตุผลที่เธอเดินทางจากไต้หวันมาแอฟริกาเพื่อเปิดร้านอาหารวีแกนมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือ เธอต้องการเผยแพร่ความรักและแนวคิด “วีแกน” นี้ ไปยังสถานที่มากขึ้น เพื่อที่ทุกคนจะได้รู้ว่าการเป็นวีแกนนั้นสามารถมีสุขภาพดีและมีความสุขได้อย่างไร

รายการอาหารของร้านวีแกนเลิฟวิ่งฮัท (ภาพโดย ลี่เจีย ผู้สื่อข่าวพิเศษของไต้หวันนิวส์)

แหล่งข่าว: ไต้หวันนิวส์